เมนู

เสนาสนวรรค อุปฌาปนสิกขาบทที่ 3


พึงทราบวินิจฉัย ในสิกขาบทที่ 3 ดังต่อไปนี้

[แก้อรรถปฐมบัญญัติ เรื่องพระทัพพมัลลบุตร]


หลายบทว่า ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ ภิกฺขู อุชฺฌาเปนฺติ มีความว่า
พวกภิกษุเมตติยะ และภุมมชกะ เมื่อกล่าวคำเป็นต้นว่า ฉนฺทาย ทพฺโพ
มลฺลปุตฺโต
(พระทัพพมัลลบุตรจัดเสนาสนะโดยฉันทาคติ) ดังนี้ ชื่อว่า
ยังภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นให้ดูหมิ่น คือให้มองดูท่านทัพพะนั้นด้วยความดูหมิ่น.
อีกอย่างหนึ่ง ความว่า ย่อมให้ติดไปทางลามก. ก็ในคำว่า อุชฺฌายนฺติ นี้
พึงทราบลักษณะ (แห่งศัพท์) ตามแนวแห่งคัมภีร์ศัพทศาสตร์. ปาฐะว่า
โอชฺฌาเปนฺติ ดังนี้ ก็มี. ความก็อย่างนี้เหมือนกัน.
บทว่า ฉนฺทาย ได้แก่ โดยความชอบพอกัน คือ โดยตกเข้าเป็น
ฝักฝ่ายกัน. อธิบายว่า ย่อมจัดแจงเสนาสนะที่ประณีต เพื่อพวกภิกษุผู้เป็น
เพื่อนเห็นเพื่อนคบกันของตน ด้วยความชอบพอกันนั้น.
บทว่า ขิยฺยนฺติ คือ พวกภิกษุเมตติยะและภุมมชกะ เมื่อกล่าว
คำว่า ฉนฺทาย ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต เป็นต้น ชื่อว่า ย่อ ประกาศ.
ในคําว่า อุชฺฌาปนเก ขิยฺยนเก ปาจิตฺติยํ นี้ มีวินิจฉัยว่า
พวกภิกษุเมตติยะและภุมมชกะ ย่อมให้โพนทะนาด้วยคำใด. คำนั้น ชื่อว่า
อุชฌาปนกะ. และบ่นว่าด้วยคำใด, คำนั้น ชื่อว่า ขิยยนกะ. ในเพราะ
ความเป็นผู้ให้โพนทะนา ในเพราะความเป็นผู้บ่นว่านั้น.
ด้วยบท ปาจิตฺติยํ พระผู้มีพระภาคเจ้า ปรับปาจิตตีย์ 2 ตัว ใน
2 วัตถุ.